|
Main » 2012 » July » 27 » หลักการเล่นหมากรุกไทย
7:42 AM หลักการเล่นหมากรุกไทย |
หลักการเล่นหมากรุกไทย จากตำราหมากรุกไทย โดยนายกีฬา พิมพ์เมื่อ พ.ศ.2526
1.เมื่อท่านลงมือเล่นหมากรุกไทยแล้ว ข้อแรกที่ต้องศึกษาก่อนก็คือ ต้องทราบเสียก่อนว่าหมากแต่ละตัวมีวิถีการเดินเป็นอย่างไร อย่าได้เดินผิดเดินถูกเป็นอันขาด เพราะการเดินของหมากแต่ละตัวไม่เหมือนกันเลยแม้แต่น้อยจึงต้องเรียนให้ทราบเสียก่อนจนแจ่มแจ้งแล้วจึงลงมือเล่นและเดินให้ถูกต้องทุกอย่าง
2.เมื่อท่านเล่นหมากรุก ต้องดูหมากของท่านให้ทั่วทุกตัวว่าการเดินของท่านรัดกุมดีหรือไม่ มีตัวอะไรขาดบ้างพยายามเดินหมากให้ทุกตัวติดพันกันในแบบของลูกโซ่ เพื่อมิให้ฝ่ายตรงข้ามทำลายได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องดูว่าฝ่ายตรงข้ามจะกระทำอย่างไร เมื่อแน่ใจว่าฝ่ายของตนรัดกุม ไม่มีตัวขาดระหว่างการติดต่อกันแล้ว จึงค่อยพินิจดูหลักการฝ่ายตรงข้ามต่อไปว่าเขาดำเนินการรุกหรือรับในแนวใด จะกระทำการรบในแนวใดจึงจะได้ชัยชนะ แล้วจึงดำเนินการตามแผนที่คิดไว้ในใจของตน
3.ดูช่องโหว่ของฝ่ายตรงข้ามที่เราสามารถจะบุกทลวงเข้าไปในดินแดนของเขาได้ เพราะการเล่นของทุกคนย่อมมีจุดโหว่ด้วยกันทั้งสิ้น หากมองเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามมีจุดอ่อนหรือจุดโหว่ที่ใดแล้วให้รีบฉวยโอกาสกระทำทันทีไม่ควรให้เสียเวลาแม้แต่เพียงครั้งเดียว
4.เมื่อฝ่ายตรงข้ามเดินหมากตัวใด และมองเห็นว่าฝ่ายของเราได้เปรียบแล้วอย่าได้แสดงท่าทีผิดสังเกตุให้เขาจับผิดได้เพราะจะทำให้เขาเกิดความรู้สึกตัวและเราจะกระทำการเอาชนะได้ไม่ถนัด เมื่อถึงคราวควรกระทำแล้วให้รีบกระทำการทันที
5.ระวังการเดินหลวมตัวของฝ่ายเราเพราะจะเป็นช่องว่างหรือจุดโหว่ให้ฝ่ายตรงข้ามทำการบุกรุกได้อย่างเต็มที่ เมื่อนั้นเราจะตกเป็นฝ่ายตั้งรับ ยากแก่การที่จะกู้สถานการณ์ ฝ่ายของตนได้ มีแต่ทางแพ้ฝ่ายเดียว การเล่นหมากรุกไทยจึงต้องถือหลักการที่ สำคัญ คือ เมื่อมีการรับแล้วต้องมีการรุกประกอบไปอีกด้วย ซึ่งก็เหมือนกับการรบที่ใช้กำลังพลเป็นเกณฑ์นั่นเหละจะผิดกันก็แต่เพียงว่าในกระดานหมากรุกประกอบด้วยตัวหมาก แต่ในการยุทธ์หรือสงครามนั้น ต้องวางแผนโดยเอาชีวิตของ
คนจริงๆ เข้ากระทำการเท่านั้น
6.ดูวิธีการตั้งทัพของฝ่ายตรงข้าม และแนวทางที่จะเจาะทลวง เข้าไปในแดนของอีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งนี้เราจะทราบผลเมื่อการเล่นดำเนินไปไม่นานเท่าใดนัก ที่กล้ากล่าวเช่นนี้ เพราะผู้เล่นทุกคนย่อมมีช่องโหว่ให้แก่ฝ่ายตรงข้ามกระทำการเอาจนได้ถ้าหากพิจารณากันโดยละเอียดแล้วจึงจะทราบเรื่องเช่นนี้ได้ดี
7.การฝึกหัดมากและการจดจำกระบวนการเดินหมากของนักหมากรุกต่างๆ เป็นประโยชน์มากในการที่จะยึดเอาไว้ เป็นแบบอย่างเพื่อการฝึกหัดครั้งต่อไป ผู้เล่นควรจะจำกระบวนการของหมากที่ผู้มีความชำนาญได้กระทำเอาไว้ และเมื่อเข้าแบบหรือรูปดังกล่าวก็จะสามารถพลิกแพลงนำเอามาใช้ได้เป็นอย่างดี
8.ผู้เล่นต้องรู้คุณค่าของหมาก ในกระดานของตนเพราะหมากรุกทุกตัวย่อมมีคุณค่าและจะต้องใช้ให้เป็นประโยชน์จริงๆการเดินหมากโดยผิดพลาดเพียงส่วนน้อย อาจจะทำให้เกิดความผิดหวัง และพ่ายแพ้แก่คู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดายที่สุด
9.การนำเอาตัวหมากไปแลกโดย การเสียเปรียบฝ่ายตรงข้ามนั้น ไม่สมควรกระทำอย่างยิ่งเพราะจะทำให้ตัวหมากของตนน้อยไปกว่า เดิม และเมื่อนั้นแนวทางการป้องกันของฝ่ายเราก็จะมีความลดน้อยลงไป กลายเป็นช่องโหว่ให้ฝ่ายตรงข้ามกระทำการได้อย่างถนัด และเมื่อนั้นก็จะตกเป็นฝ่ายตั้งรับแต่ประการเดียว ยากที่จะกู้สถานการณ์กลับคืนมาได้
10.การเริ่มต้นย่อมนำมาซึ่งความได้เปรียบ หรือเสียเปรียบ เรื่องเช่นนี้พึงสังวรไว้เสมอว่าการเดินหมากในตอนแรกของกระดานนั้นเป็นหลักการสำคัญอย่างมาก การขึ้นต้นดี ย่อมมีแนวทางที่จะนำชัยชนะมาสู่ได้มากกว่าหลัก 10 ประการของนักเล่นหมากรุกดังกล่าวมาข้างต้นนี้เป็นเพียงส่วนน้อยที่นำมากล่าวถึงเท่านั้น เป็นข้อเตือนใจสำหรับบรรดานักหมากรุกสมัครเล่นและหมากรุกที่ที่ต้องฝึกฝนตนเองให้มีความเก่งกล้า ต้องคำนึงถึงอยู่เสมอและควรแก่การยึดหลักดังกล่าวนี้เอาไว้ด้วย
การเล่นหมากรุก จากหนังสือหมากรุกกล โดย หม่อมเจ้าอนันตนรไชย เทวกุล
การเล่นหมากรุกนั้นไม่ว่าจะเป็นหมากรุกของชาติ หรือประเทศใด ถ้าท่านสนใจที่จะเล่นให้ได้ดี นอกจากไหวพริบและความเฉียบแหลมแล้ว ท่านก็ควรที่จะมี ความเข้าใจในหัวข้อที่จะกล่าวต่อไปนี้ให้แน่ชัดเสียก่อน กล่าวคือ:-
1 กำลังอำนาจของตัวหมากรุกแต่ละประเภท(ภาษาอังกฤษเรียกว่าPower of chessmen)ที่ท่านสนใจอยู่นั้น กำลังอำนาจของตัวหมากรุกที่กล่าวนี้ คือ อำนาจในการเคลื่อนที่(เดิน) อำนาจในการทำลาย(กิน) อำนาจในการรุกไล่(รุก) และอำนาจในการคุ้มกัน(ผูก)ซึ่งข้าพเจ้าขอใช้ในหนังสือเล่มนี้ว่า "สมรรถภาพของตัวหมากรุก"สมรรถภาพของตัวหมากรุกที่กล่าวแล้วนี้ สำหรับท่านผู้เล่นหมากรุกไทยเป็นแล้วก็ย่อมทราบอยู่แล้วว่าตัวใดมีสมรรถภาพเพียงไรสำหรับท่านผู้เริ่มสนใจในกีฬานี้ ก็อาจทบทวนความเข้าใจได้จากหนังสือเล่มนี้
2 กำลังงานอันซ่อนเร้นอยู่ภายในตัวหมากรุก (Potency of chessmen) กำลังงานอันนี้ ก็เกิดจากสมรรถภาพของตัวหมากรุกนั่นเองถ้าหากท่านจะพิจารณาสมรรถภาพของแต่ละประเภทให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นแล้ว กำลังงานอันนี้ก็จะผุดขึ้นมาให้เห็นได้เองซึ่งในหมากรุกไทยก็พอจะแยกเป็นหัวข้อดั่งต่อไปนี้:-
(1) กำลังต่อต้านและตรึง(Opposition) ซึ่งจะมีอยู่ทุกๆตัวเป็นธรรมดา แต่ที่สำคัญที่สุดนั้นก็อยู่ที่ตัวขุน ซึ่งมีหน้าที่ทั้งในการไล่ต้อนหรือถอยเป้นเชิง เพื่อการแพ้ ชนะ หรือ เสมอของการเล่นครั้ง(กระดาน)นั้นๆ ซึ่งข้าพเจ้าขอเรียกอย่างสั้นๆว่า"ชิงที"
(2) อำนาจในการกักกัน ซึ่งจะต้องเกี่ยวพันกัน ระหว่างตัวหมากรุกประเภทต่างๆ ตลอดทั้งที่เป็นประเภทเดียวกัน และคนละประเภท อำนาจในการกักกันนี้หมายความว่าเฉพาะตัวต่อตัวคือฝ่ายละหนึ่งตัว จะเป็นประเภทใดก็ได้ บนกระดานหมากรุกที่ว่างเปล่าไม่มีตัวอื่นปะปนอยู่ด้วย และด้วยสมรรถภาพของตัวมันเองตัวเดียวเท่านั้นจะสามารถตัดการเดินของตัวอีกฝ่ายหนึ่งไว้มิให้เดินอีกได้ ในทีซึ่งฝ่ายนั้นจะต้องเดิน หรือถ้าเดินก็จะต้องถูกกิน หรือทั้งสามารถจะติดตามกินตัวนั้นได้ด้วย คือหมายความว่า
ถ้าตัวใดได้พยายามติดตามตัวของฝ่ายตรงข้าม ซึ่งในที่สุดฝ่ายตรงข้ามก็จะเดินมาให้กินจนได้ ทั้งนี้แต่ละตัวจะทำได้เพียงใดหรือไม่ (ดังจะได้บรรยายแต่ละตัวไป)
(3) ความสามารถที่มีอยู่ในการเดินแต่ละประเภทซึ่งพอจะแยกเป็นหัวข้อได้คือ:-
- ตัวหมากรุกประเภทใดจะสามารถเดินจากที่ตั้งของตนไม่ว่าจะเป็นตาใดก็ตามไปยังตาที่จะกำหนดให้ ได้ภายในกี่ที (ม้าเท่านั้น) ที่ต้องคำนึง
- การเดินของตัวนั้นๆ จะสามารถเปลี่ยนแปรการเดิน อันเป็นปกติของตัวมันให้เป็นอย่างอื่นได้เพียงใดหรือไม่(ข้อนี้มีอยู่ก็แต่เบี้ยคว่ำเท่านั้น)
3นอกจากที่กล่าวมาแล้วนี้ท่านควรมีความเข้าใจในหัวข้อเหล่านี้ให้ถ่องแท้ ไว้ด้วย คือ:-
(1) กำลังโอบต้อน: ในที่นี้หมายความว่าในเมื่อฝ่ายหนึ่งมีเพียงขุนตัวเดียวและจะตั้งอยู่ที่ใดก็ตาม ฝ่ายไล่ควรจะมีกำลังอย่างน้อย ที่สุดเท่าใด จึงจะสามารถที่จะต้อนอีกฝ่ายหนึ่งให้ไปยังจุดประสงค์ได้
(2) กำลังที่จะรุกให้จน: ในที่นี้หมายความว่า ในเมื่อฝ่ายหนึ่งมีเพียงขุนตัวเดียวและจะตั้งอยู่ที่ใดก็ได้ และฝ่ายไล่มีกำลังอย่างน้อย ที่สุดเท่าใด จึงจะสามารถไล่และรุกให้จนได้เสมอไปทั้งนี้มิได้หมายความถึงขุนที่ตั้งอยู่ในหมากรุกกล
(3)แหล่งที่จะทำให้จนได้ด้วยกำลังอันน้อยที่สุด ในเมื่อฝ่ายหนีมีขุนเพียงตัวเดียว
อยากเล่นหมากรุกไทยเก่ง จากนิตยสารหมากรุก ฉบับที่ 5 ม.ค.-ก.พ. พ.ศ.2538 โดยขุนก้อง มีคนอยากเล่นหมากรุกไทยเก่งจัดเข้าชั้นเซียน ใช้เวลาฝึกฝนด้วยตนเองเป็นเวลานานก็ไม่เก่งสักที ถูกเพื่อน หรือเซียนตามซุ้มไล่ต้อนเสมอดูแล้วน่าเห็นใจทีเดียวบางคนใช้วิธีฝึกจากตำราเดินได้ตามรูปแบบอยู่สักพักก็เบื่อ พวกนี้ เก่งได้นิดหน่อยเพราะไม่มีคู่ซอมที่แข็งแกร่งพอถึงจุดๆหนึ่งก็หมดสภาพ เรียกว่าเก่งได้แค่นั้นเซียนหมากรุกให้ทัศนะว่า คนเก่งหมากรุกไทยหาได้ยากเพราะแต้มหมากแต่ละแต้มเซียนมือเก่าๆหวงนักหวงหนา ทำให้ปัจจุบันเลยหามือเซียนที่จะขึ้นมาครองๆบัลลังก์ได้ยาก แชมป์หมากรุกส่วนใหญ่จึงเป็นมือเก่าหน้าเดิมไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลง สมัยก่อนชื่อเสียงของเซียนใหญ่ ๆอย่างเซียนซ้ง,เซียนป่อง,ม้าปรีชาฯลฯเป็นเลิศไร้คู่ต่อสู้ พวกเขาเดินสายเล่นหมากรุกไล่กินมาทั่วประเทศก็ไม่มีคนสู้ เพราะเขามีแต้มเด็ดที่ฝึกฝนมาด้วยประสบการณ์ จนกระทั่งมีการแข่งขันอย่างเป็นทางการพวกเขาถูกจัดวางเป็นมือเซียนชั้นแนวหน้าตามฟอร์มยังไงก็ตามหลังจากที่เซียนออกตำรามาขาย มือดาวรุ่งหน้าใหม่เริ่มพัฒนาแต้มเข้ามาแทนที่ หมากรุกไทยยุคนี้ เริ่มมีคนเก่งเพิ่มขึ้น แต่นักหมากรุกหน้าใหมต่างก็มีวิธีฝึกฝนฝีมือแตกต่างออกไป
คุณนคร ตรีสอาด แชมป์หมากรุกขุนทองคำครั้งที่8 เคยบอกผมว่า
นักหมากรุกไทยที่อยากเก่งเร็วต้องฝึกฝนจากปลายมาหาต้นคือ ฝึกการไล่เป็นลำดับแรกแล้วค่อยมาฝึกแต้มเดินต้นกระดานเพราะหมากรุกไทยจุดสำคัญคือ การไล่หมากปลายกระดานใครที่ไล่จัด ไล่คมย่อมได้เปรียบ ผู้ที่ฝึกแบบนี้ เสมอ ๆจะเรียนรู้การตัตหมากปลายกระดานเบียดเอาชนะในบั้นปลายได้ แต่นักหมากรุกทิ่ฝึกมาแบบนี้ แต้มหมากและความเห็นจะไมคมเหมือนกับประเภทที่ฝึกเล่นหาประสบการณ์มากๆ พวกนั้นปลายกระดานไม่เก่งแต่แต้มทำคมจัดมาก นักหมากรุกที่เดินสายเล่นตามซุ้มมีอยู่หลายท่านที่เล่นเป็นอาชีพ พอลงแข่งขันมักจะได้เปรียบคู่ต่อสู้เพราะมีการฟิตซ้อมลับแต้มอยู่เสมอ
พอเจอเซียนมือใหญ่ๆมักจะไม่กลัวนัก แต่พวกนี้ความแข็งแกร่งมีไม่นานเมื่อเล่นไปสักพักก็แย่เหมือนกัน
คุณประจวบ นิมิตยงสกุล อุป-นายกสหพันธ์หมากรุกสากลบอกกับผมว่า
เมื่อก่อนท่านเล่นหมากรุกเป็นหมดไม่ว่าจะเป็นหมากรุกไทย จีน แต่พอมาเล่นหมากรุกสากลและได้มาสัมผัสอย่างจริงจังจนกระทั่งเป็นกรรมการสหพันธ์ก็เลิกเล่นหมากรุกอื่น เพราะหมากรุกสากลช่วยพัฒนาแต้มหลายอย่างแต่ถ้าใครอยากเล่นหมากรุกเก่งควรฝึกฝนหมากรุกประเภทอื่นประกอบด้วย ซึ่งรูปหมากและวิธีเดินคล้ายคลึงกันอย่างเรือม้า ขุน ทั้งหมากรุกไทย,จีน,สากลเป็นแนวทางเดียวกันหมด
หนูทองซึ่งเป็นแชมป์หมากรุกสากลประเทศไทย 4 สมัยพูดว่าหมากรุกสากลช่วยพัฒนาแต้มหมากจริง เขามีความเห็นในหมากรุกไทยดีก็เพราะเขาฝึกหมากรุกสากลด้วย ยิ่งถ้าใครนำแต้มหมากรุกสากลมาผสมกับหมากรุกไทยด้วยแล้วจะพัฒนาฝีมืออย่างรวดเร็วหากกลัวว่าเพิ่งหัดเล่นหมากรุกสากลใหม่ ๆจะไม่ได้ผลก็ขอให้ลืม ๆไปซะเพราะจุดประสงค์ที่เล่นหมากรุกสากลก็เพื่อเอาแต้มมาประยุกต์ในหมากรุกไทยต่างหาก
หนูทองยังบอกด้วยว่า ผูที่คิดจะเก่งหมากรุกไทยทางลัดจะต้องเป็นคนหมั่นจดจำแต้มหมากเสมอๆ หากมีเวลาว่างก็ต้องไปซุ่มดูเซียนซ้อมแต้มตามซุ้มบ้างหรือไปชมเกมการแข่งขันอย่างเป็นทางการ 2 อย่างนี้สามารถเอามาพัฒนาได้ระดับหนึ่ง
เซียนป่อง แชมป์หมากรุก 5 สมัยบอกผมว่า
ถ้าอยากเก่งเร็วต้องเล่นบ่อยเพื่อหาความคล่องตัว เวลาเดินจะรู้โดยอัตโนมิตว่า จะเดินหมากตัวไหนหมอวัฒน์ อดีตมือ 16 เซียนขุนทองคำให้ทัศนะว่า เซียนหมากรุกที่จะเก่งได้เร็วต้องเล่นหาประสบการณ์กับหมากทุกระดับ เท่าที่เห็นเวลานี้ เซียนแหว่งเป็นมือ 1 ประเทศไทยเขาเล่นหมากทุกระดับและลดหมากให้คู่ต่อสู้เขาเล่นเพื่อเอาแต้มสรุปแล้วใครที่อยากเล่นหมากรุกไทยเก่งต้องฝึกฝนสิ่งเหล่านี้ ให้ครบถ้วนคือ
1. ฝึกการไล่ให้ช่ำชองและเรียนรู้ เรื่องหมากรุกกลจะทำให้ตัวเองสามารถกำหนดทีเดินได้อย่างถูกด้อง
(ความเห็นคุณนคร ตรีสอาด)
2. ศึกษาจำแต้มหมากของเซียนมาประยุกต์ผนวกกับศึกษาเกมๆการแข่งขันและตำราของเซียน
(ความเห็นของหนูทอง)
3. ต้องเล่นหมากรุกอื่นๆประกอบโดยเฉพาะหมากรุกสากล จะช่วยได้เยอะเพราะรูปหมากและวิธีการเล่นใกล้เคียงกัน
(คุณประจวบ นิมิตยงสกุล)
4. ต้องหาประสบการณ์เล่นกับผู้ที่แข็งแกร่งกว่าเสมอ การเล่นก็เพื่อเอาแต้ม
(หมอวัฒน์)
5.เล่นบ่อยๆ เพื่อความคล่องตัว
(ความเห็นเซียนป่อง)
ครับใครที่อยากเล่นหมากรุกไทยเก่งจำ 5 ข้อนี้ไว้ให้ดีนะครับได้ผลแน่นอน เพราะทุกท่านที่ให้ทัศนะผมมา
ล้วนแล้วแต่เป็นนักหมากรุกชั้นแนวหน้าทั้งสิ้น
|
Views: 4689 |
Added by: chef
| Rating: 0.0/0 |
|
Statistics |
Total online: 1 Guests: 1 Users: 0 |
|
|